เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ร่วมเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนในอนาคต ในงานประชุมวิชาการ เรื่อง “สมาร์ทเอจจิง 2025: กินดี อยู่ดี เพื่อชีวิตยืนยาว (Smart Aging 2025: Longevity Food, Ecosystem and Society)” ณ ห้องประชุม Auditorium อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศ. พญ.ผิวพรรณ มาลีวงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มข. กล่าวเปิดงาน ผศ. ดร.ภก.นรินทร์ จันทร์ศรี คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มข. กล่าวรายงาน และ ศ. ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวต้อนรับ โดยการประชุมนี้มีนักวิจัย นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกว่า 200 ท่าน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมล่าสุดด้านอาหารเพื่อสุขภาพ
ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการ บพค. กล่าวว่า “การวิจัยครั้งนี้เป็นทางเลือก ทางออก และแนวทางการแก้ปัญหาในการสร้างอาหารที่เหมาะสมกับผู้สูงวัยของประเทศไทย ที่ได้เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มตัว ให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น จากสารสกัดที่เหมาะสม ที่สามารถนำไปสู่การเป็น Personalized Nutrition ให้แต่ละคนได้ นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สามารถนำวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรมเชิงลึกมาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาที่มีความท้าทายให้กับสังคมและสามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนได้”
โอกาสนี้ ได้มอบหมายให้ ดร.จิตติ มังคละศิริ รองผู้อำนวยการ บพค. เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อเรื่อง “อาหารแห่งอนาคต: โจทย์วิจัยสู่ความเป็นเลิศ” โดยนำเสนอถึงบทบาทภารกิจของ บพค. ที่ได้รับมอบหมายให้บริหารและจัดการทุนตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของประเทศ ตามแผน ววน. พ.ศ. 2566-2570 โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุทธศาสตร์ ววน. ที่ 3 และ 4 ที่มุ่งส่งเสริมการสร้างเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าที่ก้าวหน้าล้ำยุค รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก และการสร้างกำลังคนสมรรถนะสูงตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมและประเทศ
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความความยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหาร ในสภาวะการขาดแคลนทางด้านอาหารทั่วโลกจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงความสำคัญของอาหารอนาคตไทยที่สามารถสร้างมูลค่าการส่งออกถึง 3 แสนล้านบาท และที่ผ่านมา บพค. ได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนงานวิจัยทางด้านการพัฒนาอาหารแห่งอนาคต เช่น ด้านอาหารเฉพาะบุคคล อาหารทางเลือก โปรตีนทางเลือกและการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน เป็นต้น ซึ่งงานวิจัยเหล่านี้ เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงมาช่วยในการพัฒนาอาหารดังกล่าว ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้กลายเป็น “ผู้ผลิตนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพที่มีมูลค่าสูง” และสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมีศักยภาพในอนาคต
