บพค. จัดเสวนาจุดประกายมุมมองเทคโนโลยีอวกาศผ่านดาวเทียม TSC-1 กับความพร้อมอุตสาหกรรมอวกาศของประเทศไทย ดึงนักวิจัยผู้ริเริ่มโครงการแชร์ไอเดียการขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมภายในงานอว.แฟร์ 2025

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดการเสวนา “ดาวเทียม TSC-1 กับโอกาสการพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดาวเทียมของประเทศไทย” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจแก่สาธารณชนให้เข้าใจถึงบทบาทและความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของเทคโนโลยีดาวเทียมในการรับมือกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมโยงและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน ในการร่วมกันขับเคลื่อนเทคโนโลยีดาวเทียมของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายในงานมหกรรม “อว.แฟร์ 2025 : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND Creators of Tomorrow” กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 9-17 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพมหานครฯ

กิจกรรมเสวนาในวันนี้ บพค. ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ ผศ. ดร.วิภู รุโจปการ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ เนียมหมวด รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) ดร.พงศธร สายสุจริต ผู้จัดการโครงการ TSC-1 จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ดร.ณัฐวัฒน์ หงส์กาญจนกุล นักพัฒนานวัตกรรมเชี่ยวชาญจาก GISTDA ดร.โพธิวัฒน์ งามขจรวิวัฒน์ จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) และคุณวสันชัย วงศ์สันติวนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลว์ แอโรสเปซ จำกัด เข้าร่วมการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมอง โดยมี ผศ. ดร.ชินวุธ พิพัฒน์ภานุกูล จากมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นผู้ดำเนินรายการในช่วงการเสวนา ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไปมากกว่า 90 คน

โอกาสนี้ ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการ บพค. มอบหมายให้ ดร.รัฐภูมิ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการ บพค. กล่าวเปิดกิจกรรมการเสวนา โดย ดร.รัฐภูมิฯ ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดเสวนาในวันนี้ว่าเป็น เวทีที่มีความสำคัญในการเชื่อมโยงความรู้ วิสัยทัศน์ และแนวทางความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพื่อร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การมีขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีอวกาศ และการพัฒนาดาวเทียม TSC-1 ผ่านภาคีความร่วมมืออวกาศไทย หรือ Thai Space Consortium (TSC) นอกจากจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเทคโนโลยีแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นคงและวางรากฐานให้อุตสาหกรรมแห่งอนาคตได้เติบโตบนฐานเทคโนโลยีที่ประเทศสร้างเอง

การเสวนาในช่วงแรก ผศ. ดร.วิภูฯ ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ฯ ดร.พงศธรฯ และคุณวสันชัยฯ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองถึงสมรรถนะด้านเทคโนโลยีดาวเทียมของประเทศไทยกับโอกาสและความท้าทายในสถานการณ์โลก และจุดเริ่มต้นของดาวเทียม TSC-1 ซึ่งการเสวนาสะท้อนภาพรวมขีดความสามารถเทคโนโลยีดาวเทียมของไทยที่แม้ยังไม่ใช่ผู้นำในเวทีโลก แต่มีศักยภาพต่อยอดจาก spill-over technology เพื่อสร้างมูลค่าในภาคเศรษฐกิจ โดยความท้าทายหลักอยู่ที่กำลังคนที่มีศักยภาพพร้อมใช้งาน และด้านเทคโนโลยี ยังมีความพร้อมไม่เท่าประเทศชั้นนำ ซึ่งอาจเกิดจากการขาดโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง และขาดการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนจากภาครัฐและการส่งเสริม ecosystem ที่เอื้อต่อการพัฒนาและส่งเสริมในมิติต่าง ๆ โครงการดาวเทียม TSC-1 จึงถูกวางบทบาทให้เป็นโครงการต้นแบบในการสร้างขีดความสามารถให้ครบทั้งห่วงโซ่คุณค่าหรือ Value chain โดยใช้เทคโนโลยีที่ประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพต่อยอด เพื่อสร้างโอกาสใหม่และไม่ให้ไทยตกขบวนเศรษฐกิจอวกาศในอนาคต

ในการนี้ ดร.พงศธรฯ ได้กล่าวให้ข้อมูลถึงโครงการการสร้างและพัฒนาดาวเทียม TSC-1 ว่าเป็นโครงการดาวเทียมที่ออกแบบโดยวิศวกรไทยทั้งหมด และดำเนินการประกอบ ทดสอบ และสร้างโดยวิศวกรไทยสูงถึง 70% ขององค์ประกอบทั้งหมดของดาวเทียม เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ในการผลิตอุปกรณ์บางส่วนหรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ไทยมียังไปไม่ถึง โดยการสร้างและพัฒนาดาวเทียม TSC-1 ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และพร้อมขึ้นสู่อวกาศภายใน 2 ปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาในช่วงที่สอง โดยมี ผศ. ดร.วิภูฯ ดร.ณัฐวัฒน์ฯ และ ดร.โพธิวัฒน์ฯ ร่วมเสวนาถึงการต่อยอดดาวเทียม TSC-1 ไปสู่ภาคธุรกิจ และบทบาทของพระราชบัญญัติกิจการอวกาศในการส่งเสริมเศรษฐกิจอวกาศของประเทศ ซึ่งในการเสวนาได้พูดถึงผลลัพธ์และผลกระทบที่ได้รับจากการสร้างดาวเทียม TSC-1 เป็นการสร้าง know-how และสั่งสมเป็นฐานความรู้และเทคโนโลยีที่มีศักยภาพรองรับอนาคต และยังเป็นกลไกการสร้าง Talent pool ด้านวิศวกรรมดาวเทียมหรืออวกาศ ทั้งนี้ การต่อยอดโครงการ TSC-1 ไปสู่ภาคธุรกิจ ยังจำเป็นต้องหาช่องว่างทางธุรกิจให้เจอเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้นำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ และในมิติของการสร้างและพัฒนากำลังคนด้านที่เกี่ยวข้องนี้ควรมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา และการจัดทำโครงการระยะยาว รวมไปถึงกลไกที่เกี่ยวกับการสนับสนุนอาชีพเหล่านี้ เพื่อรักษาบุคลากรให้อยู่ในระบบ ตลอดจนการผลักดันร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ จะเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดนโยบายประเทศ และมีกองทุนส่งเสริมกิจการอวกาศที่จะสามารถส่งเสริมได้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้

การเสวนาในครั้งนี้ได้สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยด้านบุคลากรวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมเพื่อต่อยอดสู่เศรษฐกิจอวกาศในอนาคตต่อไป สำหรับ บพค. ในฐานะหน่วยงานให้ทุนที่มีพันธกิจในการสนับสนุนทุนสำหรับพัฒนาบุคลากรสมรรถนะสูงและงานวิจัยขั้นแนวหน้า มีความพร้อมอย่างยิ่งในการส่งเสริมเทคโนโลยีและขยายความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีระบบโลกและอวกาศ รวมถึงเทคโนโลยีดาวเทียม เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยสามารถเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วให้ได้ภายในปี 2580

หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน
และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา
การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.)

Program Management Unit for Human Resources & Institutional
Development,Research and Innovation (PMU-B)

319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 14 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน
เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
02-109-5432 ต่อ 845
[email protected]

ช่องทางการติดต่อสารบรรณของหน่วยงาน :
[email protected]

      ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่