เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดย ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการ บพค. พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน บพค. จัดการประชุมนำเสนอรายงานความก้าวหน้าโครงการภายใต้แผนงานเป้าหมายสำคัญในประเด็น “ประเทศไทยเกิดงานใหม่ ทักษะสูง รายได้ดี ใน 3 อุตสาหกรรม (Semiconductor, EV และ AI)” ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยได้รับเกียรติจาก คณะทำงานแผนงานเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมฯ และผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ดร.วิบูลย์ รักสาสน์เจริญผล ดร.พิชัย ศิริกิจ คุณสุพจน์ เธียรวุฒิ คุณตติยะ หลิมวิจิตร คุณยุพิน บุญศิริจันทร์ ผศ.ดร.ชินวุธ พิพัฒน์ภานุกุล ดร.จิตติ มังคละศิริ ดร.สุรพันธ์ เมฆนาวิน และคุณอภิเนตร อูนากูล มาร่วมเป็นผู้ให้ข้อเสนอแนะและความเห็นต่อการดำเนินงานโครงการ พร้อมด้วยอาจารย์ นักวิจัย จากมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย ตัวแทนภาคเอกชน และหน่วยงานพันธมิตร เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้กว่า 120 คน ณ ห้องประชุม Pimarn Ballroom ชั้น 12 โรงแรม Grande Centre Point Lumphini กรุงเทพมหานคร

โอกาสนี้ ดร.รัฐภูมิ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการ บพค. ได้กล่าวต้อนรับและชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจัดประชุม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อติดตามความก้าวหน้า แลกเปลี่ยนผลการดำเนินงาน และรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิและภาคอุตสาหกรรม ในการพัฒนาแนวทางการดำเนินโครงการให้ตอบโจทย์เป้าหมายของการพัฒนา “กำลังคนสมรรถนะสูง” ที่สอดคล้องกับความต้องการของ 3 อุตสาหกรรมอนาคต ทั้งด้านเซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า และปัญญาประดิษฐ์ ตลอดจนสะท้อนบทบาทของ บพค. ในการเป็นกลไกเชื่อมโยงภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน ผ่านการสนับสนุนทุนแบบมุ่งผลลัพธ์ (Outcome-based) ที่สร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านผู้อำนวยการ บพค. ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ได้กล่าวเปิดการประชุมฯ โดยเน้นย้ำว่าทุนของ บพค. มุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง และสร้าง “งานใหม่ ทักษะสูง รายได้ดี” ให้กับประเทศ ผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย ภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ พร้อมทั้งรองรับการลงทุน การขยายฐานการผลิต และการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล และเป็นแผนงานที่สนับสนุนการสร้างกำลังคนทักษะสูงที่ตรงตามความต้องการของภาคผู้ใช้บัณฑิต (Demand-driven) ให้เท่าทันอย่างเร่งด่วน ดังจะเห็นได้จากระยะเวลาการดำเนินงานโครงการที่สั้น รวดเร็วและกระชับเวลาอย่างมาก แต่ บพค. ก็พร้อมสนับสนุนแผนงานนี้ให้สามารถดำเนินต่อไปได้ในห้วงระยะเวลา 2 ปีนี้

การประชุมครั้งนี้มีการนำเสนอความก้าวหน้ารวม 26 โครงการ ภายใต้ 3 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ (1) อุตสาหกรรม Semiconductor มุ่งผลิตบุคลากรด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง การออกแบบชิปและระบบบนชิป (2) อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มุ่งพัฒนาทักษะด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า แบตเตอรี่ ระบบควบคุมอัจฉริยะ และการซ่อมบำรุงที่ได้มาตรฐาน และ (3) อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มุ่งสร้างบุคลากรด้านข้อมูล วิศวกรรมซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์มดิจิทัล และการประยุกต์ใช้ AI ในภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศ โดยแต่ละโครงการได้รายงานความก้าวหน้าถึง การออกแบบหลักสูตรและการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบ Consortium ระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคอุตสาหกรรม และการพัฒนาต้นแบบองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับความต้องการจริงของตลาดแรงงานและภาคการผลิต ซึ่งคณะกรรมการ คณะทำงาน และผู้ทรงคุณวุฒิได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงวิชาการและเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อเสริมความชัดเจนของผลลัพธ์โครงการในมิติการสร้างคน การสร้างองค์ความรู้ และการสร้างระบบนิเวศการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงในระดับภูมิภาคและนานาชาติ ช่วยแนะนำให้โครงการต่าง ๆ สามารถปรับแนวทางดำเนินงานให้สอดคล้องกับทิศทางเทคโนโลยีและความต้องการอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สุดท้ายนี้ ดร.ณิรวัฒน์ฯ ได้กล่าวสรุปถึงภาพรวมว่าการนำเสนอรายงานครั้งนี้ ได้สะท้อนถึงความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมของโครงการภายใต้ 3 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยโครงการกลุ่ม Semiconductor มีความก้าวหน้าในการเตรียมกำลังคนรองรับตำแหน่งงานคุณภาพในภาคอุตสาหกรรม โครงการกลุ่ม EV อยู่ระหว่างการปรับกระบวนการยกระดับสู่กำลังคนทักษะสูง และโครงการกลุ่ม AI แสดงให้เห็นการพัฒนาใช้ประโยชน์ผ่านกรณีศึกษาและต้นแบบการประยุกต์ใช้ที่ชัดเจนในภาคส่วนต่าง ๆ ด้าน ดร.วิบูลย์ รักสาสน์เจริญผล ประธานคณะทำงานแผนงานเป้าหมายสำคัญฯ ได้สะท้อนมุมมองเชิงนโยบายว่า ความต้องการกำลังคนในปัจจุบันของอุตสาหกรรม EV และ Semiconductor ยังต้องการกำลังคนระดับพื้นฐานจำนวนมาก ซึ่งถือเป็น Learning Curve สำคัญในการพัฒนากำลังคนจากระดับพื้นฐานไปสู่กำลังคนที่สามารถขับเคลื่อนการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงมากยิ่งขึ้นในปี 2569 โดยชี้ว่า บพค. ให้ความสำคัญกับการบริหารงบประมาณให้เกิดผลกระทบเชิงบวกสูงสุดต่ออุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณผู้รับทุน ผู้ทรงคุณวุฒิ และหน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมกันขับเคลื่อนผลลัพธ์ “งานใหม่ ทักษะสูง รายได้ดี” ให้เกิดขึ้นจริง และเชิญชวนทุกหน่วยงานร่วมงานแถลงความสำเร็จและปิดโครงการในโอกาสต่อไป