เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดย ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการ บพค. เข้าร่วมเป็นวิทยากรบรรยาย ในหัวข้อ “Future Trajectories and Opportunities of Engineering Biology in ASEAN” ภายในงาน UK–ASEAN Engineering Biology Symposium 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ
การจัดงานในครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่มุ่งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างนักวิจัย นวัตกรรม และผู้กำหนดนโยบายชั้นนำจากสหราชอาณาจักรและประเทศสมาชิกอาเซียน ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีในการพัฒนา “ชีววิทยาวิศวกรรม (Engineering Biology: EB)” ตลอดจนเปิดโอกาสความร่วมมือใหม่ ๆ และร่วมกันแก้ไขความท้าทายที่มีร่วมกันในด้านสุขภาพ เกษตรกรรม ความยั่งยืน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ดร.ณิรวัฒน์ฯ กล่าวว่า เทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงและชีววิทยาวิศวกรรม (Engineering Biology) เป็นหนึ่งในสาขาที่ บพค. ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นจุดบรรจบของ ‘วิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และคน’ ซึ่งเป็นสามปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนทั้งการพัฒนาประเทศและความร่วมมือระดับภูมิภาค โดย บพค. มีพันธกิจหลักในการพัฒนากำลังคนที่มีสมรรถนะสูง และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันวิจัย เพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไทยจากแรงงาน (Manpower) สู่ทุนสมอง (Brainpower) ซึ่งเป็นการลงทุนทั้งใน ‘คน’ ผู้สร้างองค์ความรู้ ‘สถาบัน’ ที่หล่อหลอมพวกเขา และ ‘เครือข่าย’ ที่เชื่อมโยงระดับโลก ผ่านการขับเคลื่อน 4 ภารกิจหลัก อันได้แก่
1. การพัฒนากำลังคน (Human Resource Development): สนับสนุนทุนการศึกษาและการฝึกอบรมในสาขาเกิดใหม่ เช่น ชีวสารสนเทศ (Bioinformatics) ชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology) และการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) เพื่อสร้างนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ที่เชื่อมโยงชีววิทยา คอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมได้อย่างไร้รอยต่อ
2. ทุนวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research Grants): สนับสนุนงานวิจัยสหสาขา เช่น ชีววิทยาสังเคราะห์เพื่อการดักจับคาร์บอน วิศวกรรมระดับโมเลกุลเพื่อพัฒนาแนวทางรักษาใหม่ และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในชีวสารสนเทศเพื่อคาดการณ์โรค
3. ความร่วมมือระหว่างประเทศ (International Collaboration): ส่งเสริมโครงการร่วมทุนและการวิจัยร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะผ่านกรอบความร่วมมือ เช่น ASEAN COSTI เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน
4. โครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Infrastructure): สนับสนุนห้องปฏิบัติการขั้นสูง แพลตฟอร์มข้อมูลชีวสารสนเทศ และศูนย์ฝึกอบรมด้านจีโนมิกส์และการแพทย์แม่นยำ พร้อมขยายการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ให้กับมหาวิทยาลัย อุตสาหกรรม สตาร์ทอัพ และ SMEs
นอกจากนี้ ดร.ณิรวัฒน์ฯ ยังกล่าวทิ้งท้ายเพิ่มเติมว่า “เทคโนโลยีชีววิทยาวิศวกรรมไม่ใช่แค่ศาสตร์หนึ่ง แต่คือโอกาสของภูมิภาค จึงอยากเห็นนักวิจัยไทยและอาเซียนมีบทบาทเป็นผู้ร่วมออกแบบและสร้างสรรค์อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่ตอบโจทย์ความต้องการของภูมิภาค ตั้งแต่ระบบอาหาร และสุขภาพที่ยั่งยืน พลังงานสะอาด และการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล”
บพค. มุ่งพัฒนาทุนสมอง พัฒนากำลังคนที่มีสมรรถนะสูง สร้างองค์ความรู้งานวิจัยขั้นแนวหน้าและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันวิจัย
