
เมื่อวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2568 ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เดินทางเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 30 (the 30th Conference of the Parties to the UNFCCC – COP 30) พร้อมมอบหมาย ดร.จิตติ มังคละศิริ รองผู้อำนวยการ บพค. เข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนาน (Side Event) เรื่อง “Harnessing Geoinformatics, AI and Smart farming for GHG reduction in Thailand’s Agricultural sector” ซึ่งมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 10-21 พฤศจิกายน 2568 ณ Hangar – Convention and Trade Center of the Amazon เมืองเบเล็ง (Belém) สหพันธรัฐบราซิล
โอกาสนี้ คณะของ บพค. ได้เดินทางปฏิบัติภารกิจพร้อมกับคณะผู้แทนประเทศไทย นำโดย นางสาวภัทรานันท์ ทองประพาฬ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้รับมอบหมายจาก นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก องค์การมหาชน (อบก.) รองศาสตราจารย์วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ศาสตราจารย์ ดร.ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ การไฟฟ้าฟ้าฝ่ายผลิต บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
งานประชุม COP 30 มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศจากทุกภาคส่วน และหาทางออกร่วมกันในหลากหลายมิติ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ประเทศภาคีเร่งดำเนินการตามความตกลงปารีสที่จะควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ให้บรรลุผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรรม ดังนั้น ในช่วงเวลาของการจัดงานจึงมีการจัดกิจกรรมสำคัญไปพร้อมกัน อาทิ การประชุมอย่างเป็นทางการและการเจรจาเป้าหมายต่าง ๆ ของรัฐภาคีเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดกิจกรรมคู่ขนานของประเทศสมาชิก ธนาคาร หรือองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ตลอดจนกับการจับคู่ทางธุรกิจเพื่อยกระดับ Climate Technology ที่สร้างมูลค่าเพิ่มควบคู่กับแก้ปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม มากไปกว่านั้น ยังมีเรื่องสำคัญ อาทิ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง การช่วยเหลือทางการเงิน การใช้ที่ดิน/ป่าไม้/ทรัพยากรธรรมชาติ ความยุติธรรมสำหรับกลุ่มคนที่เปราะบาง หรือ การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างอุตสาหกรรมแห่งอนาคตยังคงเป็นประเด็นที่หลายประเทศให้ความสนใจ
โดยมีรายงานว่า จำนวนผู้เข้าร่วมลงทะเบียนมีจำนวนสูงกว่า 56,118 คน ทำให้เป็นการประชุม COP ที่มีผู้เข้าร่วมสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก COP28 ที่ดูไบ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 80,000 คน และเป็นการประชุมสำคัญที่น่าจับตามองว่า มีบทบาทสำคัญในการเปิดโอกาสให้ชนพื้นเมืองลุ่มแม่น้ำแอมะซอนเข้ามาเรียกร้องสิทธิในความเป็นอยู่ที่ดีและมีนักเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นทางการเงิน สิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ป่าไม้และสิทธิของชาวพื้นเมือง

บพค. มุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นแนวหน้า การผลิตและพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน สถาบันวิจัย และพร้อมเป็นกำลังสำคัญเพื่อเป็นรากฐานในสร้างอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และแก้ไขปัญหาที่ท้าทายทางสังคมและสิ่งแวดล้อม